ไข่ไก่เต็มไปด้วยสารอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโอเมก้า 3 กรดไขมันที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเองไม่ได้ ซึ่งจะช่วยลดไขมันคอเรสเตอรอบแบะความดันโลหิต ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยบำรุงสมองในเรื่องของความจำ มีโปรตีนและกรดอะมิโน ที่จะเข้ามาช่วยซ่อมแซมร่างกายและอวัยวะที่สึกหรอ รวมไปถึงยังช่วยเพิ่มมวลของกล้ามเนื้อให้กับร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว ไข่ไก่เองก็ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียม และธาตุเหล็กอีกด้วย

ไข่จากไก่เลี้ยงแบบปล่อยในโรงเรือน (Cage-Free)

การเลี้ยงปล่อยในโรงเรือน แม่ไก่จะมีพื้นที่ให้เดินไปมาภายในโรงเรือน เพื่อให้กางปีก หรือวางไข่ได้สะดวก รวมถึงสามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติอื่น ๆ เช่น การคลุกดิน ฟาร์มเหล่านี้ มักจะได้รับการตรวจสอบโดยองค์กร อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงไก่ประเภทนี้ จะดีต่อคุณภาพชีวิตของไก่มาก แต่ไม่ได้รับประกันว่า จะปราศจาก การทารุณกรรมสัตว์ ตัวอย่างเช่น การตัดปากไก่ ยังเป็นเรื่องปกติ เพื่อลดความเสี่ยง ของการบาดเจ็บจากการจิกตีกัน หรือเสี่ยง ต่อการลอกคราบเนื่องจากความหิว

ไข่จากไก่เลี้ยงแบบนอกโรงเรือน (Free-Range)

คำว่า "Free-range" ตามมาตรฐานของ USDA ของอเมริกา โดยทั่วไปแล้ว หมายความว่า แม่ไก่สามารถออกไปนอกโรงเรือนได้ แม้ว่าจะมีการจำกัดบริเวณก็ตาม ในขณะที่ Humane Farm Animal Care (HFAC) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ทำงานเพื่อปรับปรุงชีวิตของสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม เพื่อใช้เป็นอาหารกำหนดว่าไข่ "Free-range" ที่ผ่านการรับรองของ HFAC จะต้องมาจากฟาร์มที่มี พื้นที่อย่างน้อยสองตารางฟุตต่อไก่หนึ่งตัว และไก่จะต้องอยู่กลางแจ้งในสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยอย่างน้อยหกชั่วโมงต่อวัน

ไข่จากไก่ที่เลี้ยงในทุ่ง (Pasture-Raised)

เพื่อให้ไข่สามารถติดฉลาก "Pasture-Raised" ได้ บริษัทต้องได้รับการรับรองจากองค์กร หรือบุคคลที่สาม (แม้ว่าจะไม่ได้ถูกควบคุมโดย USDA) ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า แม่ไก่ได้รับการเลี้ยงแบบ ไม่มีกรงและสามารถออกมายังพื้นที่กลางแจ้งได้ และทำรังได้อย่างอิสระ อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงประเภทนี้ ฟาร์มจะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไข ว่าพื้นที่เลี้ยงไก่ต้องมีขนาดไม่เกิน 2.5 เอเคอร์ต่อไก่ 1,000 ตัว (ราว ๆ 108 ตารางฟุตต่อหนึ่งตัว) และต้องพาไก่หมุนเวียนไปหาอาหารยังทุ่งอื่นด้วย นอกจากนี้ แม่ไก่จะต้องอยู่กลางแจ้งตลอดทั้งปี แต่จะมีที่พักสำหรับไก่เพื่อป้องกันภัย จากนักล่ายามค่ำคืน หรือเพื่อหลีกหนีจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย

ไข่ออร์แกนิก (Organic)

"ไข่ออร์แกนิก จะได้รับการรับรองจาก USDA" ว่าไก่จะต้องได้รับการเลี้ยงดู ตามมาตรฐานเดียวกัน กับไข่ที่เลี้ยงในทุ่ง แต่จะต้องมีเงื่อนไขเพิ่มเติม นั่นก็คือ ต้องเลี้ยงไก่โดยปราศจากยาฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืช หรือปุ๋ย และไก่จะต้องได้รับอาหารออร์แกนิก โดยไม่มีสารเคมีเจือปนอยู่ นอกจากนี้ ฟาร์มไก่ ยังไม่สามารถให้ยาปฏิชีวนะ หรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ อีกสิ่งหนึ่ง ที่ควรทราบคือโครงการเกษตรอินทรีย์แห่งชาติของ USDA ห้ามไม่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ GMOs ด้วย

ไข่สีน้ำตาลกับไข่สีขาวต่างกันอย่างไร

ไข่สีน้ำตาลอาจดูดีต่อสุขภาพมากกว่าสีขาว แต่แท้จริงแล้วไข่ทั้งสองสีค่อนข้างเหมือนกัน ในแง่ของคุณภาพและสารอาหาร แล้วมันแตกต่างกันอย่างไร? ความต่างก็คือ ไก่ที่มีขนสีขาวมักจะวางไข่สีขาว และไก่ที่มีขนสีแดงมักจะวางไข่สีน้ำตาล และเหตุผลที่ไข่สีน้ำตาลมีราคาแพงกว่า นั่นก็เพราะไก่ขนแดงมักจะมีขนาดใหญ่กว่า และต้องใช้อาหารในการเลี้ยงมากกว่านั่นเอง

วิธีการเลือกซื้อไข่

• เลือกจากขนาดของไข่ไก่เป็นหลัก   ไข่ไก่นั้นมีหลายเกรดและหลายขนาดให้คุณเลือกซื้อกัน ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่เกรด AA ที่มีคุณภาพดีที่สุด มีเปลือกไข่แข็งแรง ไข่ขาวแน่นและไข่แดงกลม เนื้อสวย ส่วนไข่ไก่เกรด A จะเป็นไข่ไก่ที่มีคุณภาพลดหลั่นลงมาก ส่วนไข่ไก่เกรด B และเกรด C จะถือเป็นไข่ไก่เกรดที่ค่อนข้างต่ำ อาจจะมีรอยด่างหรือไข่ขาวเหลวเป็นน้ำ
• ทดสอบไข่ไก่ก่อนเลือกซื้อ   ไม่ว่าจะเป็นการเขย่าไข่เพื่อดูว่าไข่ที่ซื้อเป็นไข่เก่าหรือไข่ใหม่ เพราะว่าถ้าเกิดเป็นไข่ใหม่ เนื้อภายในก็จะแน่นและติดอยู่ที่เปลือกไข่ เวลาเขย่าไข่ ไข่ด้านในจะไม่ขยับ หรือจะทดลองหยิบไข่ไก่ไปส่องกับแสงสว่าง ไข่ใหม่จะมีลักษณะโปร่งใส เวลาหมุน ไข่แดงด้านในจะหมุนตามด้วย
• เลือกปริมาณของไข่ไก่   ในการเลือกซื้อไข่ไก่นั้น หากต้องการให้ไข่แดงมีปริมาณที่มากก็ควรที่จะเลือกไข่ไก่ที่มีฟองกลมๆมีขนาดใหญ่ แต่ถ้าหากไข่ไก่มีลักษณะเรียวยาว ก็จะมีปริมาณไข่ขาวที่มากกว่าไข่แดง

เราควรจะเลือกไข่ชนิดไหนดี (Free-Range)

ตัวเลือกที่ "ดีที่สุด" อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล แม้ว่าไข่ไก่ออร์แกนิก หรือไข่จากไก่เลี้ยงในทุ่งที่มาจากฟาร์มท้องถิ่นที่ดูแลแม่ไก่เป็นอย่างดี อาจสอดคล้องกับความต้องการของคุณและครอบครัว แต่เงินในกระเป๋า อาจไม่เอื้ออำนวยให้บริโภคได้บ่อย ๆ แนะนำให้เลือกสิ่งที่คุณให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก แม้ว่าจะมีตัวเลือกหลากหลาย แต่การรู้ว่าอะไรสำคัญสำหรับคุณจะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด